สีรุ้งที่ปรากฏบนฟิล์มกรองแสง
เรียกกันว่า “Rainbow Effect”ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะกับฟิล์มปรอท ที่มีส่วนประกอบของโลหะทำให้ผิวฟิล์มมันวาว คล้ายกระจกเงาRainbow Effect เกิดจากการที่มีแสงลอดผ่านชั้นฟิล์มที่ทำจากวัสดุคนละชนิดหรือวัสดุชนิดเดียวกันแต่ความหนาไม่เท่ากันนอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดแถบสีรุ้งได้เช่น ความเข้มของฟิล์ม และการวางตำแหน่งไฟผู้ที่ติดฟิล์มกรองแสงแบบปรอทจึงมักเจอกับ Rainbow Effect อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากผิวที่มันวาวของฟิล์มปรอทมักสะท้อนกับแสงภายนอกในบางเหลี่ยมมุมอย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้ติดตั้งฟิล์มแบบปรอทแต่หากเพิ่งติดฟิล์มมาใหม่ ๆ และยังไม่เซ็ตตัวดีก็มีโอกาสที่จะเห็นแถบสีรุ้งขึ้นจาง ๆ บนฟิล์มเช่นเดียวกันสำหรับผู้ที่ใช้ฟิล์มปรอทการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LEDสามารถทำให้แถบสีรุ้งจางลงได้และสำหรับผู้ที่เพิ่งติดตั้งฟิล์มใหม่เพียงพยายามจอดรถกลางแจ้งเพื่อให้ฟิล์มแห้งและเซ็ตตัวดีสัก 7 วันแถบสีรุ้งบนฟิล์มก็จะจางลงไปได้เช่นกัน
ในการติดฟิล์มกรองแสง หลายคนเคยสังเกตุเห็นว่าฟิล์มมีลักษณะเป็นสีรุ้ง เมื่อมองจากบางมุม หรือเกิดขึ้นตอนมืด ลักษณะการเกิดสีรุ้งนี้เรียกง่ายๆว่า rainbow effect
rainbow effect เกิดจากการที่แสงผ่านชั้นฟิล์มบางๆ 2 ชั้นที่มีความหนาต่างกันและเป็นวัสดุคนละชนิดกัน โดยส่วนใหญ่ในฟิล์มกรองแสงชนิดโลหะจะเกิดจากชั้นโลหะที่เคลือบ หรือชั้นเคลือบกันรอย scratech resistant ซึ่งการเกิด rainbow effect นี้เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตฟิล์มกรองแสงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่อาจจะน้อยจนบางครั้งสังเกตุไม่เห็น
ความเด่นชัดของสีรุ้งมากหรือน้อยขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดสารที่เคลือบ ความหนาของชั้นเคลือบ ความสว่างของแสงภายในภายนอก ความเข้มของฟิล์ม ชนิดของหลอดไฟที่ใช้ หรือแม้กระทั่ง การวางตำแหน่งไฟและการใช้แว่นบางชนิด ก็อาจทำให้เกิดลักษณะเงารุ้งขึ้นมาได้มากน้อยต่างๆกัน
ในกรณีที่ต้องการใช้ฟิล์มที่มีความเข้มมาก ควรลองติดตัวอย่างฟิล์มเพื่อดูว่ามีลักษณะการเกิดคราบรุ้งมากหรือน้อยอย่างไร แต่ในหลายกรณีการติดตั้งฟิล์มแผ่นเล็กก็อาจจะไม่เห็นลักษณะของเงารุ้งได้ชัดเจนมากนัก
การแก้ไข
ที่ได้ผลค่อนข้างมาก คือการใช้หลอด LED ที่มีคลื่นแสงคล้ายคลึงกับแสงอาทิตย์จะช่วยลดริ้วรุ้งให้จางหายไปได้มากแม้จะไม่หมด 100% ก็ตาม